"ถ้าเว็บไซต์ไม่รองรับมือถือ…คุณกำลังเสียลูกค้าไปแบบไม่รู้ตัว!"

คำตอบคือ "สำคัญมากกว่าที่คุณคิด" เพราะปัจจุบันนี้คนไทยกว่า 90% เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ใช่ผ่านคอมพิวเตอร์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว นั่นหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณยังออกแบบให้เหมาะสมกับแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว คุณกำลังตัดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ไปโดยไม่รู้ตัว

ประสบการณ์ผู้ใช้ คือหัวใจของทุกเว็บไซต์
ลองนึกภาพว่าลูกค้าเข้ามายังเว็บไซต์คุณผ่านมือถือ แล้วเจอกับหน้าเว็บที่ตัวหนังสือเล็กมาก ต้องซูมเข้าออกเพื่ออ่าน เมนูหลบอยู่ที่มุมจอ หรือปุ่มกดอยู่ใกล้กันเกินไปจนเผลอกดผิดบ่อยๆ คุณคิดว่าเขาจะอยู่ต่อหรือกดปิดแล้วหันไปหาคู่แข่งที่ให้ประสบการณ์ที่ง่ายกว่า? คำตอบนั้นชัดเจนมาก

เว็บไซต์ที่มีการออกแบบให้ Responsive จะปรับขนาดและโครงสร้างของหน้าเว็บให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้เปิด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเล็กหรือใหญ่ ทำให้การใช้งานราบรื่นเหมือนกันในทุกแพลตฟอร์ม และนั่นไม่ได้แค่เรื่อง "ความสวย" เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของ "ความสะดวก" และ "ความน่าเชื่อถือ" ด้วย

• Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่รองรับมือถือ
  อีกประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เลยคือการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google เพราะ Google ใช้ระบบที่เรียกว่า Mobile-First Indexing มาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งหมายความว่า Google จะดูเวอร์ชันมือถือของเว็บไซต์เป็นหลักในการจัดอันดับ ถ้าเว็บของคุณไม่รองรับมือถือ ก็มีแนวโน้มสูงมากที่จะตกไปอยู่ท้ายๆ ของผลการค้นหา
  ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง SEO ให้ลึกซึ้งก็เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า
  ถ้าเว็บคุณติดอันดับต่ำ คนก็มองไม่เห็น = ไม่มีคนเข้า = ยอดขายไม่มา = เสียโอกาสโดยใช่เหตุ
  
  

• ถึงเวลาอัปเกรดเว็บไซต์ให้ทันยุคแล้วหรือยัง?
  หากคุณกำลังทำธุรกิจในยุคนี้ และยังไม่มีเว็บไซต์ที่ปรับแต่งเพื่อมือถือโดยเฉพาะ นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการรีแบรนด์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็รีดีไซน์เว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น เพราะมันไม่ได้แค่ช่วยเรื่องภาพลักษณ์เท่านั้น แต่มันคือการลงทุนที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงคุณได้ง่ายขึ้น และ Google ก็จะให้คะแนนคุณดีขึ้นตามไปด้วย
  
  

อย่าปล่อยให้เว็บไซต์กลายเป็นจุดอ่อนของแบรนด์คุณ เพราะแค่เรื่องเล็กๆ อย่าง “เว็บไม่รองรับมือถือ” ก็อาจทำให้คุณพลาดดีลใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย