ยิงแอดแล้วคนคลิก แต่ไม่ซื้อ? ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่สินค้า…

เผยความลับ! ทำไมลูกค้าคลิกแอดแต่ไม่เคยหยิบของลงตะกร้า?

สวัสดีค่ะสาวๆ! ใครเป็นเหมือนฉันบ้าง? ทุ่มเงินยิงแอดไปไม่น้อย เห็นยอดคลิกพุ่งกระฉูดจนใจฟู แต่พอไปดูยอดขาย… โอ้มายก๊อด! ทำไมมันนิ่งสนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยล่ะเนี่ย? แรกๆ ก็โทษสินค้าตัวเองไปต่างๆ นานา คิดว่าไม่ดีพอ ไม่มีใครอยากได้ แต่พอได้ลองคุยกับเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจออนไลน์เหมือนกัน ถึงได้รู้ว่านี่มันคือปัญหาโลกแตกของนักยิงแอดหลายคนเลยนะ! แล้วปัญหามันอยู่ที่ไหนกันแน่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าทำไมลูกค้าถึงคลิกแอดแต่ไม่ซื้อ และที่สำคัญคือ ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่สินค้าของเธอเสมอไป!

◼︎ หน้า Landing Page ของเธอ "พร้อม" รับลูกค้าหรือยัง?

เธอเคยรู้สึกไหมว่าเวลาคลิกโฆษณาอะไรไปแล้วเจอหน้าเว็บที่ดูไม่น่าเชื่อถือ หรือโหลดช้ามากๆ? นั่นแหละคือตัวการสำคัญที่ทำให้ลูกค้าหนีไป! ลองคิดดูนะ เธอทุ่มเงินยิงแอดไปแล้ว ลูกค้ากำลังสนใจสินค้าของเธอมากๆ แต่พอคลิกเข้ามาปุ๊บ หน้าเว็บโหลดช้าเป็นเต่าคลาน รูปไม่ขึ้นบ้าง หรือจัดวางข้อมูลกระจัดกระจายไปหมด ลูกค้าก็พร้อมจะกดปิดทิ้งทันทีเลยแหละ!

ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ หน้า Landing Page ของเธอต้องมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโหลด การออกแบบที่ดูสะอาดตา ใช้งานง่าย ข้อมูลสินค้าครบถ้วน ชัดเจน และมีปุ่ม Call-to-Action (CTA) ที่โดดเด่นและเข้าใจง่าย จะซื้อเลย โทรเลย หรือแชทสอบถามก็ได้หมด! ถ้าเธอยังไม่มีเว็บไซต์ หรือเว็บไซต์ของเธอยังไม่ตอบโจทย์ ลองปรึกษา บริษัทรับทำเว็บไซต์ มืออาชีพดูสิ พวกเขาจะช่วยให้หน้า Landing Page ของเธอพร้อมต้อนรับลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

◼︎ "เนื้อหา" ที่ดึงดูดใจแต่ "ไม่ตรงปก" ก็พาพังนะ!

อันนี้สำคัญมากเลยนะแก! หลายคนเน้นทำโฆษณาให้ดูหวือหวา น่าสนใจ ดึงดูดให้คนคลิกเข้ามาเยอะๆ แต่ลืมไปว่า เนื้อหาในโฆษณาต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้าจะเจอในเว็บไซต์ ลองนึกภาพว่าเธอเห็นโฆษณาโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลด 90% แต่พอคลิกเข้าไปในเว็บจริง ๆ กลับเจอแค่ลด 10% หรือสินค้าที่โฆษณาไว้ไม่มีอยู่จริง ลูกค้าจะรู้สึกยังไง? เสียความรู้สึกมากใช่ไหมล่ะ?

ดังนั้น โฆษณาของเธอต้องจริงใจและซื่อสัตย์กับลูกค้าเสมอ บอกสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับอย่างชัดเจน ถ้าสินค้ามีโปรโมชั่นก็บอกให้ชัดเจนว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง ถ้ามีสินค้าใหม่ก็บอกว่าเป็นสินค้าใหม่จริงๆ ไม่ใช่แค่นำสินค้าเก่ามาเปลี่ยนชื่อ การสร้างความคาดหวังที่ถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยให้ลูกค้าไม่ผิดหวังเมื่อเข้ามาในเว็บไซต์ และจะเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น

◼︎ ลูกค้ายังไม่ "เชื่อใจ" หรือเปล่า?

ลองถามตัวเองดูสิว่า เว็บไซต์ของเธอมีอะไรที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าบ้าง? ในโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ ลูกค้าไม่ได้ตัดสินใจซื้อเพียงเพราะเห็นสินค้าสวยงามอย่างเดียวนะ แต่เขาจะมองหาความน่าเชื่อถือด้วย

เธอสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้หลายวิธี เช่น:

• มีรีวิวจากลูกค้าจริง: รูปภาพพร้อมคำบรรยายจากลูกค้าที่เคยซื้อไปแล้ว จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดี
• มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน: เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือ Line Official Account ที่ลูกค้าสามารถติดต่อได้ง่ายและตอบคำถามอย่างรวดเร็ว
• แสดงใบรับรอง หรือรางวัลต่างๆ (ถ้ามี): สิ่งเหล่านี้จะช่วยตอกย้ำถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าและธุรกิจของเธอ
• เว็บไซต์ที่มีความปลอดภัย: ลูกค้าจะรู้สึกอุ่นใจเมื่อรู้ว่าข้อมูลส่วนตัวและการทำธุรกรรมของพวกเขาปลอดภัย ควรมี SSL Certificate เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล และ บริษัทรับทำเว็บไซต์ ที่ดีจะสามารถแนะนำเรื่องนี้ให้เธอได้
• เรื่องราวของแบรนด์ (Brand Story): การเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของแบรนด์ว่าทำไมถึงเริ่มต้น ทำไมถึงหลงใหลในสิ่งที่ทำ จะช่วยให้ลูกค้าอินและผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

◼︎ "คู่แข่ง" ของเธอทำอะไรที่แตกต่างออกไปไหม?

บางทีปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่เธอเลยนะ แต่อยู่ที่ "คู่แข่ง" ของเธอต่างหาก! ลองส่องดูสิว่าคู่แข่งของเธอมีกลยุทธ์อะไรที่โดดเด่นกว่า? เขาอาจจะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจกว่า มีการบริการลูกค้าที่ดีกว่า หรือแม้แต่มีวิธีการนำเสนอสินค้าที่แตกต่างออกไป

การศึกษาคู่แข่งไม่ได้หมายความว่าให้เธอไปลอกเลียนแบบเขานะ แต่เป็นการศึกษาเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ลองดูว่ามีอะไรที่เธอสามารถทำได้แตกต่างออกไปเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้นไหม เช่น การเพิ่มบริการหลังการขาย การจัดส่งที่รวดเร็วกว่า หรือการนำเสนอแพ็กเกจสินค้าที่คุ้มค่ากว่า เป็นต้น

◼︎ "ความต้องการ" ของลูกค้าเปลี่ยนไปหรือเปล่า?

โลกออนไลน์มันหมุนเร็วมากนะแก! เทรนด์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ความต้องการของลูกค้าก็เช่นกัน บางทีสินค้าที่เคยขายดีมากๆ อาจจะเริ่มไม่เป็นที่ต้องการแล้วก็ได้ ลองสำรวจตลาดดูสิว่าตอนนี้ลูกค้ากำลังสนใจอะไรเป็นพิเศษ? มีสินค้าหรือบริการใหม่ๆ อะไรที่กำลังมาแรงบ้าง?

การทำวิจัยตลาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เธอไม่ตกเทรนด์ และสามารถปรับกลยุทธ์การขายได้อย่างทันท่วงที อาจจะต้องลองนำเสนอสินค้าใหม่ๆ หรือปรับปรุงสินค้าเดิมให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันมากขึ้นก็ได้ และถ้าเธอมี บริษัทรับทำเว็บไซต์ ที่คอยให้คำแนะนำด้านการตลาดออนไลน์ ก็จะช่วยให้เธอปรับตัวได้เร็วขึ้นด้วย

◼︎ ช่องทาง "การชำระเงิน" ที่ยุ่งยาก ลูกค้าก็หนีนะ!

ลองนึกภาพว่าลูกค้าตัดสินใจจะซื้อสินค้าของเธอแล้วนะ ใส่สินค้าลงตะกร้าเรียบร้อย แต่พอถึงขั้นตอนการชำระเงิน… โอ๊ย! ทำไมมันยุ่งยากซับซ้อนขนาดนี้? กรอกข้อมูลเยอะแยะไปหมด ต้องสมัครสมาชิกก่อน ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม หรือมีตัวเลือกการชำระเงินน้อยเกินไป บางทีลูกค้าก็เปลี่ยนใจไม่ซื้อซะดื้อๆ เลยนะ!

ดังนั้น เว็บไซต์ของเธอควรมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและใช้งานง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านธนาคาร, Mobile Banking, บัตรเครดิต/เดบิต, E-wallet ต่างๆ หรือแม้แต่การเก็บเงินปลายทาง ยิ่งมีตัวเลือกเยอะเท่าไหร่ ลูกค้าก็ยิ่งสะดวกและมีโอกาสตัดสินใจซื้อได้มากขึ้นเท่านั้น บริษัทรับทำเว็บไซต์ ที่มีประสบการณ์จะช่วยเซ็ตอัพระบบชำระเงินที่ราบรื่นให้กับเว็บไซต์ของเธอได้

◼︎ ลูกค้าอาจจะยัง "ไม่พร้อม" ซื้อตอนนี้ก็ได้!

สุดท้ายแล้ว บางครั้งลูกค้าก็แค่ "ยังไม่พร้อม" ที่จะซื้อในตอนนี้ก็ได้นะแก! บางคนอาจจะแค่เข้ามาดูเพื่อเปรียบเทียบราคา หรือกำลังศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ยังไม่ได้ต้องการซื้อในทันทีทันใด การที่ลูกค้าคลิกเข้ามาดูไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องซื้อเสมอไป

สิ่งที่เราทำได้คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเหล่านั้น ลองเก็บข้อมูลลูกค้าที่เข้ามาดูแต่ยังไม่ซื้อไว้ แล้วนำไปทำ Re-marketing ในภายหลัง หรือส่งอีเมลข่าวสาร โปรโมชั่น หรือบทความดีๆ ไปให้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเธอไม่ได้ทิ้งเขาไป และเมื่อไหร่ที่เขาพร้อมจะซื้อ เธอคือคนแรกที่เขาจะนึกถึง! การมีระบบเว็บไซต์ที่ดีที่สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้จะช่วยในส่วนนี้ได้มากซึ่งบริษัทรับทำเว็บไซต์ หลายแห่งก็มีบริการในส่วนนี้ด้วย