ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

ดีไซน์ที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องขายได้ วิธีคิดของนักออกแบบสายการตลาด

https://www.ib.co.th/article/857
ดีไซน์ที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องขายได้ วิธีคิดของนักออกแบบสายการตลาด

สีของแบรนด์ที่คุณใช้กำลังบอกอะไรกับลูกค้า? มาดูกันว่าจิตวิทยาสีในงานดีไซน์จะช่วยพุ่งยอดขายให้ธุรกิจคุณได้อย่างไร!

ทำไมสีถึงสำคัญกับแบรนด์ของคุณ? เปิดโลกจิตวิทยาสีที่ไม่ใช่แค่เรื่องสวยงาม

ทุกคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "สีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก" ใช่ไหมคะ? แต่สำหรับโลกธุรกิจแล้ว สีไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้นค่ะ! มันคือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังมากๆ ที่สามารถสร้างการจดจำ สร้างอารมณ์ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้โดยที่เราไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะค่ะ

ในฐานะบริษัทรับทำเว็บไซต์เรามักจะให้ความสำคัญกับเรื่องสีในงานดีไซน์มากๆ เพราะมันคือด่านแรกที่ลูกค้าจะเห็นและสัมผัสได้ถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์คุณ ลองนึกภาพดูสิคะว่า ถ้าเว็บไซต์ของคุณใช้สีที่สื่อสารผิดพลาด ลูกค้าอาจจะกดปิดหน้าต่างไปก่อนที่จะได้รู้จักสินค้าหรือบริการของคุณอย่างถ่องแท้เลยด้วยซ้ำ!

  • สีช่วยสร้างการจดจำ: เคยไหมคะที่เห็นแค่สีก็รู้เลยว่าเป็นแบรนด์อะไร? นั่นแหละค่ะพลังของสี! สีที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์จะช่วยให้แบรนด์ของคุณติดอยู่ในความทรงจำของลูกค้าได้ง่ายขึ้นมากๆ
  • สีสร้างอารมณ์และความรู้สึก: แต่ละสีมีความสามารถในการกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เช่น สีแดงให้ความรู้สึกกระตือรือร้น สีฟ้าให้ความรู้สึกสงบ หรือสีเขียวให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ การเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับอารมณ์ที่เราต้องการสื่อถึงลูกค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ ค่ะ
  • สีส่งผลต่อการตัดสินใจ: คุณเชื่อไหมคะว่าสีสามารถโน้มน้าวให้คนซื้อของได้จริงๆ! จากผลวิจัยหลายๆ ชิ้นพบว่า สีมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การเลือกใช้สีที่กระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าได้ตรงจุด จึงเป็นไม้ตายสำคัญสำหรับทุกธุรกิจเลยค่ะ

ไขความลับแต่ละสี: เลือกให้ปัง ยอดขายพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่!

มาดูกันว่าแต่ละสีมีความหมายทางจิตวิทยาอย่างไรบ้าง และเหมาะกับธุรกิจแบบไหน เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้กับแบรนด์ของตัวเองได้อย่างตรงจุดกันค่ะ!

  • สีแดง: พลังแห่งความร้อนแรงและความเร่งด่วน
    • ความหมาย: ความรัก ความหลงใหล ความตื่นเต้น ความเร่งด่วน การกระตุ้น
    • เหมาะกับ: ธุรกิจอาหารที่ต้องการกระตุ้นความหิว ธุรกิจที่ต้องการสร้างความตื่นเต้น เช่น แบรนด์กีฬา โปรโมชั่นลดราคา หรือปุ่ม "ซื้อเลย!"
    • ข้อควรระวัง: ใช้มากไปอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกเครียดหรือหงุดหงิดได้
  • สีน้ำเงิน: ความน่าเชื่อถือและความสงบสุข
    • ความหมาย: ความน่าเชื่อถือ ความสงบ ความปลอดภัย ความมั่นคง ความเป็นมืออาชีพ
    • เหมาะกับ: ธุรกิจการเงิน ธนาคาร ไอที โรงพยาบาล หรือ บริษัทรับทำเว็บไซต์ ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า
    • ข้อควรระวัง: อาจให้ความรู้สึกเย็นชาหรือห่างเหินได้ หากใช้มากเกินไป
  • สีเขียว: ธรรมชาติ ความสดชื่น และความมั่งคั่ง
    • ความหมาย: ธรรมชาติ สุขภาพ ความสดชื่น ความเจริญเติบโต ความมั่งคั่ง
    • เหมาะกับ: ธุรกิจอาหารออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ธุรกิจสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจที่ต้องการสื่อถึงความยั่งยืน
    • ข้อควรระวัง: สีเขียวเข้มอาจให้ความรู้สึกหม่นหมองได้
  • สีเหลือง: ความสุข ความสดใส และการมองโลกในแง่ดี
    • ความหมาย: ความสุข พลังงาน ความคิดสร้างสรรค์ ความสดใส การมองโลกในแง่ดี
    • เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร แบรนด์สำหรับเด็ก หรือธุรกิจบริการที่เน้นความสนุกสนาน
    • ข้อควรระวัง: ใช้มากไปอาจทำให้รู้สึกแสบตา หรือดูกระตือรือร้นมากเกินไป
  • สีม่วง: ความหรูหรา ความคิดสร้างสรรค์ และความลึกลับ
    • ความหมาย: ความหรูหรา ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ความลึกลับ
    • เหมาะกับ: ธุรกิจสินค้าพรีเมียม เครื่องสำอาง สปา หรือธุรกิจที่ต้องการสื่อถึงความพิเศษ
    • ข้อควรระวัง: อาจให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือเก็บตัวได้
  • สีส้ม: ความกระตือรือร้น ความสนุกสนาน และความเป็นมิตร
    • ความหมาย: ความกระตือรือร้น ความสนุกสนาน ความเป็นมิตร การผจญภัย
    • เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการกระตุ้นความกระตือรือร้น แบรนด์สำหรับวัยรุ่น หรือธุรกิจที่เน้นความสนุกสนาน
    • ข้อควรระวัง: ใช้มากไปอาจดูไม่จริงจัง หรือไม่เป็นทางการ
  • สีขาว: ความบริสุทธิ์ ความสะอาด และความเรียบง่าย
    • ความหมาย: ความบริสุทธิ์ ความสะอาด ความเรียบง่าย ความสงบ
    • เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการสื่อถึงความสะอาด เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โรงพยาบาล หรือแบรนด์ที่เน้นความเรียบหรู
    • ข้อควรระวัง: หากใช้มากไปอาจให้ความรู้สึกว่างเปล่าหรือไร้อารมณ์
  • สีดำ: ความสง่างาม ความลึกลับ และความแข็งแกร่ง
    • ความหมาย: ความสง่างาม ความหรูหรา ความลึกลับ ความแข็งแกร่ง
    • เหมาะกับ: ธุรกิจแฟชั่น สินค้าหรูหรา หรือแบรนด์ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและความลึกลับ
    • ข้อควรระวัง: อาจให้ความรู้สึกหดหู่หรืออึดอัดได้ หากใช้มากเกินไป

 

แค่สีอย่างเดียวพอไหม? เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อดีไซน์ที่ปังกว่าเดิม!

การเลือกสีที่เหมาะสมกับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแค่สีอย่างเดียวจะทำให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จนะคะ! ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายในงานดีไซน์ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความรู้สึกของลูกค้า และเป็นสิ่งที่ บริษัทรับทำเว็บไซต์มืออาชีพอย่างเราให้ความสำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ

  • ฟอนต์ (Font): ฟอนต์ที่เราเลือกใช้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถสื่อถึงบุคลิกของแบรนด์ได้ดีไม่แพ้สีเลยค่ะ ฟอนต์แบบมินิมอลอาจจะเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการความเรียบหรู ฟอนต์ตัวหนาอาจจะเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการความแข็งแกร่ง ส่วนฟอนต์ที่ดูสนุกสนานก็อาจจะเหมาะกับแบรนด์สำหรับเด็ก การเลือกฟอนต์ที่เข้ากันกับสีและภาพรวมของแบรนด์จะช่วยเสริมให้แบรนด์ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ
  • รูปภาพและกราฟิก: รูปภาพและกราฟิกที่เราใช้บนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือสื่อต่างๆ ก็มีผลอย่างมากต่อการรับรู้ของลูกค้าค่ะ รูปภาพที่มีคุณภาพดี สื่อสารได้ตรงจุด และมีสไตล์ที่สอดคล้องกับแบรนด์ จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี
  • เลย์เอาต์ (Layout) และองค์ประกอบอื่นๆ: การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์หรือในงานดีไซน์ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เลย์เอาต์ที่ดูสะอาดตา เข้าใจง่าย และมีการจัดเรียงอย่างเป็นระบบจะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้สะดวกและรู้สึกสบายตา การทำงานร่วมกับ บริษัทรับทำเว็บไซต์ ที่เข้าใจหลักการออกแบบ UX/UI จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่ายและดูน่าสนใจมากขึ้นค่ะ
  • ความเป็นตัวตนของแบรนด์ (Brand Identity): สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การสร้างสรรค์สีสันและงานดีไซน์ใดๆ ก็ตาม ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นตัวตนของแบรนด์ (Brand Identity) ค่ะ แบรนด์ของคุณคือใคร? ต้องการสื่อสารอะไร? กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร? การตอบคำถามเหล่านี้ได้ชัดเจน จะช่วยให้คุณสามารถเลือกสี ฟอนต์ รูปภาพ และองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ

 

จะเริ่มต้นเลือกสีและดีไซน์ให้แบรนด์อย่างไรดีนะ?

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า "โอ๊ย! มีเรื่องสีเยอะแยะไปหมด จะเริ่มต้นยังไงดีเนี่ย?" ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ! เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน

  1. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ: ใครคือลูกค้าของคุณ? พวกเขามีอายุเท่าไหร่? ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร? พวกเขามักจะตอบสนองต่อสีแบบไหน? การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณเลือกสีที่ตรงใจพวกเขาได้ง่ายขึ้น
  2. กำหนดบุคลิกของแบรนด์: แบรนด์ของคุณต้องการเป็นแบบไหน? สนุกสนาน? จริงจัง? หรูหรา? เป็นมิตร? การกำหนดบุคลิกของแบรนด์ให้ชัดเจน จะช่วยให้คุณเลือกสีและองค์ประกอบอื่นๆ ที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่คุณต้องการ
  3. ศึกษาคู่แข่ง: ลองดูว่าคู่แข่งของคุณใช้สีอะไรกันบ้าง? มีสีไหนที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างได้บ้าง? การศึกษาคู่แข่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของตลาดและหาแนวทางในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณ
  4. ทดลองและประเมินผล: ไม่มีอะไรดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรกหรอกค่ะ! ลองเลือกสีและออกแบบมาในเบื้องต้น แล้วลองดูว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไร? มีฟีดแบ็กอะไรบ้าง? การทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณเจอ "สีที่ใช่" สำหรับแบรนด์ของคุณจริงๆ
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากรู้สึกว่าการเลือกสีและออกแบบเป็นเรื่องที่ยากเกินไป อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบหรือบริษัทรับทำเว็บไซต์มืออาชีพนะคะ พวกเขามีความรู้และประสบการณ์ที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์แบรนด์ที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จได้แน่นอนค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับบทความเรื่อง "สีของแบรนด์ส่งผลต่อยอดขายจริงไหม? จิตวิทยาสีในงานดีไซน์เพื่อการตลาด" หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์และนำความรู้เรื่องจิตวิทยาสีไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองเพื่อเพิ่มยอดขายกันนะคะ! จำไว้เสมอว่า "สี" ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังมากค่ะ

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที