จากคนเข้าเว็บสู่ลูกค้าตัวจริง: อยากให้ Conversion สูงขึ้นต้องทำยังไง?
(บทความนี้เขียนโดยเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้เป็นลูกค้า)
"สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน" ฉันชื่อเมย์นะคะ เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์เล็กๆ ที่เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกับหลายๆ คน เมย์เข้าใจเลยว่าความรู้สึกท้อใจเวลาเห็นยอดคนเข้าเว็บสวยหรู แต่ยอดขายกลับนิ่งสนิทมันเป็นยังไง เพราะเมื่อก่อนเมย์ก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่หลังจากที่ลองผิดลองถูกมาพักใหญ่ วันนี้เลยอยากจะมาแชร์เคล็ดลับและประสบการณ์ที่ทำให้ธุรกิจของเมย์เติบโตขึ้นได้ ซึ่งหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ "Conversion Rate" หรืออัตราการเปลี่ยนคนเข้าเว็บให้กลายเป็นลูกค้าค่ะ
เข้าใจหัวใจของลูกค้า: ทำไมคนถึงไม่ยอมซื้อ?
ก่อนที่เราจะไปปรับกลยุทธ์อะไรก็ตาม สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการทำความเข้าใจลูกค้าของเราก่อน เหมือนที่เราคุยกับเพื่อนสนิทแหละค่ะ เราต้องรู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีปัญหาอะไร และต้องการอะไรจริงๆ เมย์ลองวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและยอดขายมาพักใหญ่จนได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในเว็บแล้วไม่ซื้อ อาจจะมาจากสาเหตุเหล่านี้ค่ะ
- เว็บไซต์ดูไม่น่าเชื่อถือ: หลายครั้งที่เราตัดสินใจซื้อของออนไลน์ ส่วนหนึ่งก็มาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์นั้นๆ ลองนึกดูว่าถ้าเว็บเราหน้าตาเก่าๆ โหลดช้าๆ หรือไม่มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน ลูกค้าจะกล้าซื้อของกับเราเหรอคะ?
- ข้อมูลสินค้าไม่ครบถ้วน: การให้ข้อมูลสินค้าที่ไม่ละเอียดพออาจทำให้ลูกค้าเกิดความลังเลใจได้ค่ะ เช่น รูปสินค้าไม่ชัด ไม่มีขนาด ไม่มีรายละเอียดวัสดุ หรือไม่มีรีวิวจากผู้ใช้จริง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากในการตัดสินใจซื้อของออนไลน์
- ขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยากเกินไป: ถ้าลูกค้าต้องกรอกข้อมูลมากมายหลายขั้นตอน หรือหาปุ่ม "สั่งซื้อ" ไม่เจอ ลูกค้าก็อาจจะถอดใจไปก่อนได้ค่ะ การทำให้ขั้นตอนการซื้อของง่ายและรวดเร็วที่สุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
- ไม่มี Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน: ปุ่มกระตุ้นการตัดสินใจ เช่น "ซื้อเลย," "เพิ่มลงในตะกร้า," "สอบถามเพิ่มเติม" หรือ "ติดต่อเรา" ควรจะโดดเด่นและมองเห็นได้ง่าย เพื่อนำทางให้ลูกค้าไปสู่ขั้นตอนต่อไปอย่างชัดเจน
เปลี่ยนคนเข้าเว็บให้เป็นลูกค้า: สร้าง Conversion ให้พุ่งกระฉูด
หลังจากที่เราพอจะรู้แล้วว่าลูกค้าของเราอาจจะติดปัญหาอะไรบ้าง ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาปรับปรุงเว็บและกลยุทธ์ของเรากันแล้วค่ะ เมย์มีแนวทางที่อยากจะแนะนำให้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
2.1 สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ
- ออกแบบเว็บให้ดูทันสมัยและเป็นมืออาชีพ: ลองลงทุนกับการออกแบบเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม ใช้งานง่าย และตอบสนองต่อการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly) เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ในปัจจุบันเข้าเว็บผ่านมือถือกันเยอะมากเลยค่ะ
- ใช้รูปภาพสินค้าคุณภาพสูง: รูปภาพสินค้าที่สวยงามและชัดเจนจะช่วยดึงดูดลูกค้าและทำให้สินค้าดูน่าสนใจมากขึ้น
- แสดงรีวิวจากลูกค้าจริง: รีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ดีที่สุดค่ะ ลองนำรีวิวมาใส่ในหน้าสินค้า หรือสร้างเพจรวมรีวิวโดยเฉพาะเลยก็ได้
- ใส่ช่องทางการติดต่อให้ชัดเจน: มีช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้ง่าย เช่น เบอร์โทรศัพท์, Line Official Account, หรือ Facebook Messenger จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
2.2 ปรับปรุงข้อมูลสินค้าและขั้นตอนการสั่งซื้อ
- ให้ข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วนและละเอียด: ใส่รายละเอียดสินค้าให้ครบทุกมุม ทั้งขนาด, วัสดุ, วิธีใช้งาน, ประโยชน์, และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง: การเขียนคำบรรยายสินค้าด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเองจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
- สร้างขั้นตอนการสั่งซื้อที่ง่ายและรวดเร็ว: ทำให้ขั้นตอนการสั่งซื้อของลูกค้าเหลือเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน และสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายได้ เช่น โอนเงิน, บัตรเครดิต, หรือชำระเงินปลายทาง
2.3 ใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูดและกระตุ้นการตัดสินใจ
- สร้างโปรโมชั่นที่น่าสนใจ: ลองสร้างโปรโมชั่นที่มีจำนวนจำกัด เช่น "ซื้อ 1 แถม 1," "ลดราคาพิเศษเฉพาะเดือนนี้," หรือ "จัดส่งฟรีเมื่อซื้อครบ..." จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
- ใช้ Pop-up ที่เหมาะสม: การใช้ Pop-up ที่เสนอส่วนลดพิเศษ หรือให้สมัครรับข่าวสารทางอีเมล จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเก็บข้อมูลลูกค้าและนำไปทำการตลาดต่อได้
- ส่งอีเมลการตลาด (Email Marketing): เมื่อมีข้อมูลอีเมลของลูกค้าแล้ว เราสามารถส่งอีเมลไปกระตุ้นการซื้อซ้ำ หรือแนะนำสินค้าใหม่ๆ ให้กับลูกค้าได้
โลกใบใหม่ที่ธุรกิจเติบโตได้มากกว่าแค่หน้าเว็บ
นอกจากการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มี Conversion ที่ดีขึ้นแล้ว เมย์ยังอยากจะชวนคุยเรื่องที่อาจจะดูไม่เกี่ยวกับการทำ Conversion โดยตรง แต่จริงๆ แล้วมันเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออกเลยนะคะ นั่นคือเรื่อง การสร้างตัวตน (Personal Branding) และ การสร้างเนื้อหา (Content Creation) ค่ะ
3.1 การสร้างตัวตน (Personal Branding): เปลี่ยนแบรนด์ให้เป็นที่รัก
เมย์เชื่อว่าในยุคนี้ การทำธุรกิจไม่ได้เป็นแค่การขายของอย่างเดียว แต่คือการที่เราต้องสร้างความผูกพันและเป็นที่จดจำของลูกค้าด้วยค่ะ การที่เราออกมาสร้างตัวตนให้คนเห็นว่าเราคือใคร เรามีแนวคิดยังไง เราเป็นเจ้าของแบรนด์ที่น่ารัก น่าเชื่อถือ หรือมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จริงๆ มันจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของกับเราได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ เพราะคนจะไม่ได้ซื้อของจาก "ร้านค้า" แต่คนจะซื้อของจาก "คน" ที่เขาไว้ใจนั่นเอง
3.2 การสร้างเนื้อหา (Content Creation): สร้างคุณค่าให้ลูกค้าก่อนขายของ
ถ้าเราโพสต์แต่ขายของอย่างเดียว ลูกค้าก็อาจจะเบื่อและเลื่อนผ่านไป แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมาทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ให้ประโยชน์ หรือสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าก่อนล่ะคะ? เช่น ถ้าเราขายผลิตภัณฑ์ความงาม ลองทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการดูแลผิวหน้า, การแต่งหน้า หรือรีวิวเครื่องสำอางตัวอื่นที่น่าสนใจดูบ้าง การสร้างเนื้อหาที่ดีจะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันเข้ามาหาเราเอง และเมื่อพวกเขาเห็นว่าเรามีความเชี่ยวชาญและให้ประโยชน์กับพวกเขาได้ การที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
สุดท้ายนี้ เมย์อยากจะบอกว่าการทำธุรกิจออนไลน์เป็นเหมือนการเดินทางที่ไม่หยุดนิ่งค่ะ การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญมาก และการทำให้ Conversion Rate สูงขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ ขอแค่เราเข้าใจลูกค้า, ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดี, และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เมย์เชื่อว่าธุรกิจของเพื่อนๆ ทุกคนจะเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอนค่ะ
