ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

7 วิธีรับมือวันที่ยอดขายนิ่ง…โดยไม่ให้ใจคุณนิ่งตาม

https://www.ib.co.th/article/1016
7 วิธีรับมือวันที่ยอดขายนิ่ง…โดยไม่ให้ใจคุณนิ่งตาม

ยอดขายนิ่ง…ใจไม่นิ่งตาม! 7 วิธีพุ่งทะยานสู่เส้นชัย แม้เจอวันที่ท้อ

“ยอดขายตกลงมาอีกแล้วหรอเนี่ย!?” เสียงถอนหายใจของใครหลายคนในวันที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า บางคนถึงขั้นใจแป้วไปเลยทีเดียว แต่คุณรู้ไหมคะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกธุรกิจออนไลน์ที่มีคู่แข่งมากมาย แต่การที่ยอดขายนิ่ง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องปล่อยให้ใจนิ่งตามไปด้วยนะคะ วันนี้เราจะมาคุยกันแบบเปิดอกถึง 7 วิธีรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างมีสติและพลังใจเต็มเปี่ยม พร้อมแล้วไปดูกันเลย!

 

1. กลับสู่จุดตั้งต้น สำรวจความจริงให้รอบด้าน

วันที่ยอดขายนิ่ง ให้ลองหยุดพักจากความวุ่นวาย แล้วกลับมาสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง มองให้เห็นภาพรวมทั้งหมด อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปว่า “มันแย่แล้ว” ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า…

  • “ช่วงนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า?”
  • “มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาในตลาดไหม?”
  • “สินค้าของเรายังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หรือเปล่า?”
  • “การตลาดที่เราทำอยู่ ยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหมือนเดิมไหม?”
  • “ช่วงนี้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปหรือเปล่า?”

การตั้งคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่แค่การมองว่า “ยอดขายตกลง” แต่จะเห็นถึงสาเหตุที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง เมื่อรู้ปัญหาแล้ว การแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ

2. อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่จงโฟกัสที่การเติบโตของตัวเอง

บางครั้งเราก็เผลอไปมองยอดขายของคนอื่นแล้วรู้สึกท้อใจใช่ไหมคะ ยิ่งเห็นคนอื่นได้ยอดขายปัง ๆ ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังล้มเหลว แต่สิ่งสำคัญคืออย่าลืมว่าเบื้องหลังของความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การที่คุณเห็นคนอื่นขายดีก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องขายดีเท่าเขาเสมอไปค่ะ

สิ่งที่คุณควรทำคือ หยุดเปรียบเทียบกับคนอื่น แล้วหันมาโฟกัสที่การเติบโตของตัวเอง ลองมองย้อนกลับไปดูว่าเมื่อก่อนคุณเคยทำอะไรที่ประสบความสำเร็จมาบ้าง แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้กับปัจจุบัน หรือมองไปข้างหน้าว่าคุณจะพัฒนาตัวเองอย่างไรต่อไป เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

3. ปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสมัย

ในยุคที่โลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์การตลาดที่เคยใช้ได้ผลในอดีต อาจไม่สามารถใช้ได้ในปัจจุบันเสมอไปค่ะ ถึงเวลาที่คุณต้องลุกขึ้นมาปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น ลองดูสิว่า…

  • คุณกำลังใช้แพลตฟอร์มไหนในการขายสินค้าอยู่? การขายบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram ยังคงเป็นที่นิยม แต่ก็มีแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่าง TikTok ที่กำลังมาแรง ลองศึกษาและปรับใช้ดูนะคะ
  • คอนเทนต์ที่คุณสร้างยังดึงดูดใจลูกค้าอยู่ไหม? ลองหันมาสร้างคอนเทนต์ที่ให้คุณค่ากับลูกค้ามากขึ้น เช่น การรีวิวสินค้าในรูปแบบวิดีโอ การให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า หรือการจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก
  • คุณกำลังใช้เทคนิคการขายแบบไหนอยู่? การนำเสนอสินค้าแบบเดิม ๆ อาจไม่น่าสนใจอีกต่อไป ลองหันมาใช้เทคนิคการขายที่สร้างสรรค์มากขึ้น เช่น การจัดโปรโมชั่นพิเศษ การให้ส่วนลดสำหรับลูกค้าเก่า หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นขึ้น

4. สำรวจพฤติกรรมลูกค้า…และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายนิ่ง อาจมาจากความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า…

  • “ลูกค้าของคุณต้องการอะไรจริงๆ กันแน่?”
  • “พวกเขามีปัญหาอะไรที่สินค้าของคุณสามารถแก้ไขได้?”
  • “พวกเขาชอบซื้อสินค้าแบบไหน? ชอบการบริการแบบไหน?”

การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และที่สำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว การที่คุณมีลูกค้าประจำที่ภักดีต่อแบรนด์ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในวันที่ยอดขายจะซบเซาก็ตาม

 

5. อย่าปล่อยให้ความท้อใจมาบั่นทอนกำลังใจ

แน่นอนว่าการเจอกับช่วงเวลาที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าอาจทำให้คุณรู้สึกท้อใจและหมดกำลังใจได้ แต่คุณรู้ไหมคะว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติมาก ๆ เลยค่ะ สิ่งสำคัญคือคุณต้องจัดการกับมันให้ได้ อย่าปล่อยให้ความท้อใจมาบั่นทอนพลังในการทำงานของคุณ ลองหาเวลาพักผ่อนและทำในสิ่งที่รัก หรือพูดคุยกับเพื่อนสนิทเพื่อระบายความรู้สึก ความเข้าใจในตัวเองและยอมรับว่าความรู้สึกท้อใจนั้นเป็นเรื่องปกติ จะช่วยให้คุณกลับมามีกำลังใจในการทำงานได้อีกครั้งค่ะ

 

6. เพิ่มช่องทางสร้างรายได้...นอกเหนือจากการขายสินค้าหลัก

หากธุรกิจของคุณพึ่งพารายได้จากการขายสินค้าหลักเพียงอย่างเดียว ลองมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นดูนะคะ ยกตัวอย่างเช่น

  • การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ หรือทำ affiliate marketing กับแบรนด์อื่นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ
  • การให้คำปรึกษาหรือ coaching หากคุณมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณสามารถนำความรู้นั้นมาสร้างรายได้ได้ เช่น การสอนทำเบเกอรี่ การสอนแต่งหน้า หรือการสอนการตลาดออนไลน์
  • การทำคอนเทนต์เพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา หากคุณมีช่องทางโซเชียลมีเดียที่แข็งแรง ลองสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อดึงดูดผู้ติดตาม และนำมาใช้สร้างรายได้จากโฆษณาได้

การมีช่องทางสร้างรายได้หลายทาง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากช่องทางเดียว และช่วยให้คุณมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ในวันที่ยอดขายจากสินค้าหลักของคุณจะไม่เป็นไปตามเป้าค่ะ

 

7. สร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจ ด้วยการวางแผนการเงิน

การทำธุรกิจก็เหมือนการเดินทางบนถนนที่มีทั้งทางเรียบและทางขรุขระ การมีเงินสำรองหรือมีแผนการเงินที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในวันที่ยอดขายนิ่ง หรือในวันที่เกิดวิกฤตที่คาดไม่ถึง ลองมองดูว่าธุรกิจของคุณมีแผนสำรองทางการเงินที่ดีพอหรือยัง

  • มีการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจนหรือไม่? การทำบัญชีจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมทางการเงินของธุรกิจ และช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คุณมีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับธุรกิจบ้างไหม? การมีเงินสำรองจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ โดยที่ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่ดอกเบี้ยสูง
  • คุณกำลังวางแผนการลงทุนในอนาคตหรือไม่? การวางแผนการลงทุนจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

แล้วถ้าวันนี้อยากเริ่มต้นวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในธุรกิจ ควรเริ่มต้นจากตรงไหนดี?

  1. ตั้งเป้าหมายการเงินที่ชัดเจน: คุณอยากให้ธุรกิจมีรายได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน? อยากมีเงินเก็บสำรองเท่าไหร่? เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว การวางแผนก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
  2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ: ทุก ๆ วันหรือทุก ๆ สัปดาห์ ให้คุณบันทึกรายรับ-รายจ่ายทั้งหมดของธุรกิจ เพื่อให้เห็นภาพรวมทางการเงินที่ชัดเจน
  3. จัดสรรเงินอย่างเป็นระบบ: แยกเงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวกับค่าใช้จ่ายของธุรกิจออกจากกัน และจัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินสำรองสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ
  4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณรู้สึกว่าการจัดการการเงินเป็นเรื่องยาก ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินดูนะคะ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและช่วยคุณวางแผนทางการเงินได้อย่างถูกต้อง

 

สรุปคือ การที่ยอดขายนิ่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยค่ะ มันอาจเป็นสัญญาณเตือนให้คุณได้กลับมามองดูตัวเองและธุรกิจอย่างจริงจัง และเป็นโอกาสดีที่จะได้พัฒนาตัวเองและธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง อย่าปล่อยให้ยอดขายนิ่งมาทำให้ใจคุณนิ่งตามนะคะ ลุกขึ้นมาสู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างมีสติและพลังใจเต็มเปี่ยม แล้วคุณจะพบว่ายอดขายที่ลดลงเป็นเพียงบททดสอบเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณเติบโตขึ้นไปอีกขั้นค่ะ

แล้วคุณล่ะคะ…ในวันที่ยอดขายนิ่ง คุณมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง? มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยนะคะ

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที