ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

หยุดเดา! ตรวจสอบให้ชัดว่าลูกค้ามาจากไหน? 3 ขั้นตอนดู Traffic คุณภาพเข้าเว็บไซต์

https://www.ib.co.th/article/1362
หยุดเดา! ตรวจสอบให้ชัดว่าลูกค้ามาจากไหน? 3 ขั้นตอนดู Traffic คุณภาพเข้าเว็บไซต์

แชร์ประสบการณ์ว่าทำไมการหยุดเดาแล้วหันมา ตรวจสอบ แหล่งที่มาของลูกค้าด้วย Google Analytics จึงสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่า Traffic ที่เข้าเว็บไซต์คือลูกค้าคุณภาพตัวจริง

วันนี้เรามาคุยกันเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจออนไลน์เลยนะคะ นั่นคือเรื่อง "ผู้เข้าชมเว็บไซต์" หรือที่เรียกกันว่า Traffic ค่ะ

หลายๆ คน รวมถึงตัวเราเองเมื่อก่อน ก็จะมองแค่ว่า "จำนวนคนเข้าเยอะๆ คือดีที่สุด" ใช่ไหมคะ? แต่พอทำธุรกิจไปเรื่อยๆ เราถึงได้เรียนรู้ว่า Traffic ที่เยอะ แต่ไม่มีคุณภาพ... มันก็แค่ตัวเลขที่สวยงามแต่ไร้ค่าค่ะ!

ทำไมต้อง "หยุดเดา" แล้ว "ตรวจสอบ"

เราเคยเจอเหตุการณ์ที่ทุ่มงบประมาณไปกับการตลาดเต็มที่ มีคนคลิกเข้าเว็บเป็นพันๆ แต่ผลลัพธ์คือ เงียบสนิท! สุดท้ายเรามาค้นพบว่า การตลาดที่เราทำอาจจะไปถึงคนเยอะจริง แต่ไม่ใช่คนที่ "ใช่"

เหมือนเราติดป้ายโฆษณาขายคอนโดหรูไปไว้หน้าโรงเรียนประถม... คนเห็นเยอะมาก แต่ไม่มีใครมีกำลังซื้อเลย

ดังนั้น การที่เราจะรู้ว่าลูกค้าตัวจริงของเราที่พร้อมจะซื้อนั้น มาจากช่องทางไหน? มันจึงเป็นคำถามสำคัญที่เราต้อง "ตรวจสอบ" ให้ชัดเจนค่ะ

นี่คือเหตุผลที่เราต้องใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics (GA) ในการ "ส่อง" และ "ตรวจสอบ" แหล่งที่มาของผู้เข้าชมทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกบาททุกสตางค์ที่เราลงทุนไป มันพา Traffic ที่มีคุณภาพเข้ามาหาเราจริงๆ ค่ะ

3 ขั้นตอนดู Traffic คุณภาพที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้

การดู Traffic ใน GA ไม่ใช่แค่การดูตัวเลขรวมๆ ค่ะ แต่คือการเจาะลึกที่มาและพฤติกรรม เพื่อประเมิน "คุณภาพ" ของผู้เข้าชมในแต่ละช่องทาง

1. ตรวจสอบ "แหล่งที่มา" ให้ชัดเจน (Acquisition Report)

ใน GA จะมีการแบ่งแหล่งที่มาของผู้เข้าชมไว้อย่างชัดเจน นี่คือสิ่งที่เราต้องโฟกัส

  • Organic Search : มาจากการค้นหาใน Google โดยตรงจะมีคุณภาพดีมาก เพราะเขาตั้งใจหาเรา
  • Paid Search : มาจากการคลิกโฆษณาที่เราจ่ายเงินไป ต้องดูว่าคุ้มค่าโฆษณาไหม
  • Social : มาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram
  • Direct : มาจากการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์เราโดยตรง แปลว่าเป็นลูกค้าประจำหรือรู้จักแบรนด์เราดีอยู่แล้ว
  • Referral : มาจากเว็บไซต์อื่น เช่น พันธมิตร หรือบล็อกที่อ้างอิงถึงเรา

ถ้าเราเพิ่งลงโฆษณาบนโซเชียลไป เราก็ต้องดูว่า Traffic จากช่องทาง "Social" นั้นมีปริมาณเพิ่มขึ้นจริงไหม? ถ้าไม่... แปลว่าแคมเปญโฆษณาของเราอาจจะต้องมีการปรับปรุงแล้วค่ะ

2. ดูพฤติกรรม "ในเว็บ" ของแต่ละช่องทาง (Behavior)

การดูแค่ว่า "คนเข้าเยอะ" ไม่พอค่ะ เราต้องดูว่า คนจากช่องทางไหนบ้างที่ "อยู่กับเรานานที่สุด"

  • อัตราตีกลับ (Bounce Rate) : เป็นตัวชี้วัด "คุณภาพ" ที่สำคัญที่สุด!
    • ถ้า Traffic มาจาก Organic Search แต่มี Bounce Rate สูง... แปลว่าเนื้อหาในหน้า Landing Page ของเรา ไม่ตรงกับสิ่งที่เขาค้นหา
    • ถ้า Traffic มาจาก โฆษณา (Paid) แต่มี Bounce Rate สูง... แปลว่าโฆษณาของเราให้ความหวังปลอมๆ หรือดึงคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเข้ามา
  • เราต้องเปรียบเทียบเลยค่ะว่า Traffic จากช่องทางไหนมี Bounce Rate ต่ำที่สุด? นั่นแหละคือช่องทางที่พา "ลูกค้าคุณภาพ" เข้ามาหาเราค่ะ
  • หน้าทางออก (Exit Pages) : คนจากช่องทางไหนที่ "หนี" ออกจากหน้าสำคัญของเราเยอะเป็นพิเศษ? เราต้องเข้าไปดูและแก้ไขหน้านั้นเป็นอันดับแรกค่ะ

3. ส่องว่าช่องทางไหน "สร้างยอดขาย" ได้จริง (Conversions)

นี่คือจุดวัดผลสุดท้ายของเจ้าของธุรกิจค่ะ เราไม่ได้ทำเว็บเพื่อเอาคนเข้าเยอะๆ แต่ทำเว็บเพื่อ "สร้างผลลัพธ์"

ใน GA เราสามารถตั้ง "เป้าหมาย (Goal)" ได้ เช่น

  • ลูกค้าส่งแบบฟอร์มติดต่อ
  • ลูกค้าดาวน์โหลดเอกสาร
  • ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเสร็จสมบูรณ์

เราต้องเปรียบเทียบเลยค่ะว่า

แหล่งที่มา (Source) > อัตรา Conversion (Conversion Rate)

  • Organic Search > 10%
  • Social > 2%
  • Paid Search > 5%

ถ้าผลออกมาแบบนี้... มันชัดเจนเลยใช่ไหมคะ?

  • เราควร ลงทุนด้าน SEO และเนื้อหา (Organic Search) ให้มากขึ้น เพราะมันพา Traffic ที่เปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ถึง 10%!
  • เราควร พิจารณาปรับปรุงแคมเปญ Social ด่วน! เพราะแม้คนเข้าเยอะ (Traffic เยอะ) แต่มีแค่ 2% ที่ซื้อ แปลว่าเรากำลังเสียเงินไปกับคนที่ "ไม่สนใจจริง" เยอะมาก

สรุปง่ายๆ นะคะ การทำธุรกิจยุคนี้ไม่ใช่เรื่องของการ "รู้สึกว่าดี" แต่คือการ "ตรวจสอบ" ด้วยข้อมูล Google Analytics ไม่ได้แค่บอกว่ามีใครเข้าเว็บคุณบ้าง แต่บอกว่า "ใครคือคนที่คุณควรจะลงทุนเวลาและเงินเพื่อเขา" ค่ะ

ลงมือทำ!

ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ Google Analytics ในการตรวจสอบแหล่งที่มาและคุณภาพของผู้เข้าชมอย่างจริงจัง... คุณกำลังพลาดโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่หลวงนะคะ!

เริ่มต้นจากการเข้าดูรายงาน Acquisition แล้วเปรียบเทียบพฤติกรรมในแต่ละช่องทางให้ชัดเจน แล้วคุณจะสามารถ "หยุดเดา" และบริหารจัดการงบการตลาดได้อย่างแม่นยำขึ้นมากๆ ค่ะ

ขอให้สนุกกับการตรวจสอบเว็บไซต์นะคะ! แล้วถ้าติดขัดตรงไหนในการวิเคราะห์ข้อมูล Ask Me Anything ได้เลยนะ!

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที