ทำไมเว็บไซต์ถึงเป็นมากกว่าแค่หน้าตาออนไลน์ ไขทุกข้อสงสัย เลือกให้ปัง เหมาะกับธุรกิจคุณ!

เว็บบริษัท (Corporate Website หรือ Company Website) เปรียบเสมือนนามบัตรดิจิทัลของธุรกิจคุณเลยก็ว่าได้ค่ะ จุดประสงค์หลักคือการ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร สินค้า หรือบริการอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับแบรนด์ โดยส่วนใหญ่เว็บบริษัทจะประกอบไปด้วยหน้าหลักที่แนะนำองค์กร, ประวัติความเป็นมา, รายละเอียดสินค้า/บริการ (ที่เน้นการให้ข้อมูลมากกว่าการซื้อขายทันที), ข่าวสารหรือบทความ, และข้อมูลการติดต่อ

เว็บบริษัทเหมาะกับ :

• ธุรกิจที่เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์: เช่น บริษัทที่ปรึกษา, บริษัทกฎหมาย, สถาบันการเงิน
• ธุรกิจบริการ: ที่ต้องให้ข้อมูลเชิงลึกก่อนตัดสินใจ เช่น โรงแรม, คลินิก, สถาบันการศึกษา
• ธุรกิจ B2B (Business to Business): ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และให้ข้อมูลแก่คู่ค้า
• ธุรกิจที่ต้องการแสดงผลงาน: เช่น บริษัท รับออกแบบเว็บไซต์, สตูดิโอออกแบบ

มาถึงพระเอกของเราในยุคนี้ นั่นก็คือ "เว็บขายของ" (E-commerce Website หรือ Online Store) ค่ะ เว็บไซต์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ การซื้อขายสินค้าและบริการโดยเฉพาะ! พูดง่ายๆ ก็คือ ยกห้างสรรพสินค้ามาไว้บนโลกออนไลน์นั่นเอง!

เว็บขายของจะมีฟังก์ชันที่รองรับการซื้อขายโดยตรง เช่น แค็ตตาล็อกสินค้าพร้อมรูปภาพและราคา, ระบบตะกร้าสินค้า, ระบบชำระเงินที่หลากหลายช่องทาง, ระบบจัดการสต็อก และ ระบบขนส่ง นอกจากนี้ยังอาจมีฟังก์ชันสำหรับสมาชิกและรีวิวสินค้าเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

เว็บขายของเหมาะกับ :

• ธุรกิจที่มีสินค้าที่ต้องการขายออนไลน์: ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, อาหารเสริม, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• ธุรกิจที่ต้องการขยายช่องทางการขาย: จากหน้าร้านค้าออฟไลน์ไปสู่โลกออนไลน์
• ธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก: โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา
• ธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง: และควบคุมประสบการณ์การซื้อของลูกค้า

เลือกแบบไหนให้เหมาะกับแบรนด์ของเรา?

มาถึงคำถามสำคัญแล้วค่ะ! "แล้วแบรนด์ของเราควรจะเลือกแบบไหนดีล่ะ?" ใจเย็นๆ ค่ะ! ก่อนจะตัดสินใจ มาดูปัจจัยที่คุณควรพิจารณากันก่อน

1. วัตถุประสงค์หลัก : ถ้าต้องการ ให้ข้อมูลและสร้างความน่าเชื่อถือ เน้น เว็บบริษัท ค่ะ แต่ถ้าต้องการ ขายสินค้าและรับออเดอร์โดยตรง ต้องเป็น เว็บขายของ เท่านั้น!
2. ประเภทธุรกิจและสินค้า/บริการ : หากเป็นธุรกิจบริการที่ต้องมีการพูดคุยกันก่อนปิดการขาย หรือบริษัทที่ปรึกษา เว็บบริษัท จะเหมาะกว่า แต่ถ้ามีสินค้าพร้อมขายและต้องการให้ลูกค้ากดซื้อได้ทันที เว็บขายของ คือทางเลือกที่ใช่ค่ะ
3. งบประมาณและเวลา : โดยทั่วไปแล้ว การสร้างเว็บขายของมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและซับซ้อนกว่า เว็บบริษัท เพราะมีระบบการซื้อขายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวแน่นอน ถ้าคุณมีทีม รับออกแบบเว็บไซต์ มืออาชีพคอยดูแล!
4. กลุ่มเป้าหมาย : หากกลุ่มเป้าหมายเป็นธุรกิจด้วยกัน (B2B) เว็บบริษัท จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่า แต่ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป (B2C) ที่ต้องการความสะดวกในการซื้อสินค้า เว็บขายของ จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

แล้วถ้าอยากได้ทั้งสองแบบล่ะ? ไม่ต้องห่วงค่ะ! หลายธุรกิจก็มีการผสมผสานกันได้ เช่น เว็บบริษัทที่มีส่วนแค็ตตาล็อกสินค้าให้ข้อมูลแต่ไม่ได้มีระบบตะกร้าสินค้า หรือเว็บขายของที่มีหน้า "เกี่ยวกับเรา" เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณ ที่สำคัญคือการวางแผนให้ดี และเลือกทีม รับออกแบบเว็บไซต์ ที่เข้าใจความต้องการของคุณค่ะ