ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่หน้าตา...แต่คือประสบการณ์ที่ทำให้คนอยากกลับมาอีก

เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่หน้าตา...แต่คือประสบการณ์ที่ทำให้คนอยากกลับมาอีก

ทำไมการทำเว็บไซต์ที่คำนึงถึง "ใจ" ผู้ใช้งาน ถึงสำคัญกว่าแค่ "ตา" ที่มองเห็น แล้วเธอจะเข้าใจว่าทำไมลูกค้าถึงอยากกลับมาหาเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทำไมเว็บไซต์ถึงไม่ใช่แค่ "หน้าตา" ที่สวยงาม?

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน! วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปเวลาพูดถึงการมีเว็บไซต์ นั่นก็คือ "เว็บไซต์ที่ดี" มันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามภายนอกเท่านั้นนะ เหมือนที่เราชอบบอกเพื่อน ๆ ว่า "คนเราไม่ได้ดูกันแค่ที่หน้าตา" เว็บไซต์ก็เหมือนกันค่ะ มันคือประสบการณ์ทั้งหมดที่ผู้ใช้งานได้รับ ตั้งแต่คลิกเข้ามาครั้งแรกจนกระทั่งปิดหน้าต่างไป

ลองนึกภาพตามนะคะ เธอเคยเข้าเว็บไซต์ที่สวยงามตระการตา แต่พอจะหาข้อมูลทีไรก็สับสน วนไปวนมา หาอะไรก็ไม่เจอ หรือโหลดช้าจนหงุดหงิดไหมคะ? นั่นแหละค่ะ คือ "หน้าตาดีแต่ไม่มีสมอง" (ขออนุญาตใช้คำนี้หน่อยนะ จะได้เห็นภาพชัด ๆ) ในทางกลับกัน บางเว็บไซต์อาจจะไม่ได้มีดีไซน์ที่หวือหวามากนัก แต่จัดวางข้อมูลได้เป็นระเบียบ หาง่าย โหลดเร็ว มีฟังก์ชันที่เราต้องการครบครัน นั่นแหละคือเว็บไซต์ที่ "มีเสน่ห์" และทำให้เราอยากกลับไปใช้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันสูงลิ่วแบบนี้ การมีแค่เว็บไซต์ที่สวยงามมันไม่พอแล้วค่ะ เพราะใคร ๆ ก็สามารถ รับทำเว็บไซต์ ให้สวยได้ แต่สิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของเธอแตกต่างและโดดเด่นออกมา ก็คือ "ประสบการณ์ผู้ใช้งาน" หรือ User Experience (UX) ที่ยอดเยี่ยมต่างหาก

 

UX/UI สำคัญยังไงในยุคที่ "สวย" อย่างเดียวไม่รอด?

เรามาเจาะลึกเรื่อง UX/UI กันหน่อยนะ เพราะสองคำนี้เป็นเหมือนคู่แฝดที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน

UX (User Experience) คือ ประสบการณ์ผู้ใช้งาน: พูดง่าย ๆ ก็คือ "ความรู้สึก" และ "การรับรู้" ของผู้ใช้งานตลอดการใช้งานเว็บไซต์ของเธอ ตั้งแต่การค้นหา การคลิก การอ่านเนื้อหา การกรอกฟอร์ม ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ เธออาจจะเคยได้ยินคำว่า "UX ดี" หรือ "UX แย่" ใช่ไหมคะ? ถ้า UX ดี ผู้ใช้งานก็จะรู้สึกพอใจ สะดวกสบาย และอยากกลับมาอีก แต่ถ้า UX แย่ ก็จบเลยค่ะ เขาอาจจะปิดเว็บไซต์หนีไปเลยก็ได้

UI (User Interface) คือ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งาน: อันนี้คือ "หน้าตา" ของเว็บไซต์ที่เราเห็นกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ปุ่มกด เมนู สีสัน รูปภาพ ฟอนต์ ทุกอย่างที่ตาเรามองเห็นและเราสามารถโต้ตอบได้กับเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้า UI สวยงามน่าใช้ ก็เป็นเหมือนด่านแรกที่ดึงดูดให้คนอยากเข้ามาชม

ลองนึกภาพตามนะ ถ้าเธอไปร้านอาหารที่ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศดี (UI ดี) แต่พอนั่งแล้วเมนูอ่านยาก พนักงานบริการไม่ดี อาหารรสชาติแย่ (UX แย่) เธอจะอยากกลับไปอีกไหมคะ? ไม่หรอกใช่ไหม? เว็บไซต์ก็เช่นกันค่ะ ต่อให้ UI สวยแค่ไหน แต่ถ้า UX ไม่ดี ผู้ใช้งานก็ไปไม่เป็น หงุดหงิด และสุดท้ายก็จากไป

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่รับทำเว็บไซต์แบบมืออาชีพถึงให้ความสำคัญกับทั้ง UX และ UI ควบคู่กันไป เพราะมันคือการสร้างสมดุลระหว่างความสวยงามกับการใช้งานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

 

 

 

เว็บไซต์ที่ "มีชีวิต" ต้องสื่อสารได้จริง!

นอกเหนือจาก UX/UI แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของเธอมีชีวิตชีวาและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ คือความสามารถในการ "สื่อสาร" กับผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. เนื้อหาที่ใช่ โดนใจคนอ่าน

เธอลองนึกดูนะ เวลาที่เราจะหาข้อมูลอะไรสักอย่าง เรามักจะใช้ Google ค้นหาใช่ไหม? สิ่งที่ Google พยายามนำเสนอให้เรา คือ "เนื้อหา" ที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด นั่นหมายความว่าเว็บไซต์ของเธอควรจะมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ ครบถ้วน ตรงประเด็น และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของเธอ

การเขียนเนื้อหาที่ดี ไม่ใช่แค่การยัดคำคีย์เวิร์ดเข้าไปเยอะ ๆ นะคะ แต่เป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ น่าติดตาม และสามารถแก้ไขปัญหาหรือตอบคำถามของผู้ใช้งานได้จริง ๆ ถ้าเนื้อหาของเธอดี ผู้ใช้งานก็จะใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น มีโอกาสที่จะเข้ามาดูซ้ำ ๆ และที่สำคัญคือ Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเธอมีคุณภาพและน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย

2. ตอบโจทย์ทุกการเข้าถึง (Mobile-Friendly)

ในยุคที่ใคร ๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ การที่เว็บไซต์ของเธอสามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้องและสวยงามบนทุกอุปกรณ์ (Responsive Design) ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ค่ะ เธอคงไม่อยากให้ลูกค้าที่เข้ามาดูเว็บไซต์ผ่านมือถือต้องมาคอยซูมเข้าซูมออก หรือกดผิดกดถูกใช่ไหมคะ?

การที่เว็บไซต์เป็น Mobile-Friendly ไม่ได้แค่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายขึ้นเท่านั้นนะ แต่ยังมีผลต่ออันดับการค้นหาบน Google ด้วย เพราะ Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากเธอต้องการให้เว็บไซต์ของเธอเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด การทำให้เว็บไซต์รองรับทุกอุปกรณ์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ

3. ความเร็วคือชีวิต! (Page Speed)

เคยไหมคะ? คลิกเข้าเว็บไซต์แล้วโหลดอยู่นานสองนาน จนบางทีก็ถอดใจปิดไปเลย... นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ผู้ใช้งานหลายคนเผชิญอยู่ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ (Page Speed) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้งานโดยตรง

ถ้าเว็บไซต์ของเธอโหลดเร็ว ผู้ใช้งานก็จะรู้สึกดี ไม่หงุดหงิด และมีแนวโน้มที่จะอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น ตรงกันข้าม ถ้าเว็บไซต์โหลดช้า ผู้ใช้งานก็มีโอกาสที่จะปิดหน้าต่างไปก่อนที่จะได้เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่า Google ก็ไม่ชอบเว็บไซต์ที่โหลดช้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ที่ดีควรให้ความสำคัญ

 

 

การลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

จะเห็นได้ว่าการทำเว็บไซต์ที่ดี ไม่ใช่แค่การมี "หน้าตา" ที่สวยงาม แต่คือการสร้าง "ประสบการณ์" ที่น่าประทับใจให้กับผู้ใช้งานทุก ๆ คน ซึ่งจะนำไปสู่ความภักดีของลูกค้า การบอกต่อ และการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจของเธอ

ลองนึกภาพตามนะ ถ้าเว็บไซต์ของเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือและทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เธอจะอยากกลับไปหาเพื่อนคนนี้บ่อย ๆ ใช่ไหมคะ? เว็บไซต์ก็เหมือนกันค่ะ ถ้ามันมอบประสบการณ์ที่ดี มันก็จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกผูกพันและอยากกลับมาหาเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดังนั้น หากตอนนี้เธอกำลังคิดจะ รับทำเว็บไซต์ ใหม่ หรือปรับปรุงเว็บไซต์เดิม ลองให้ความสำคัญกับเรื่องของประสบการณ์ผู้ใช้งานให้มาก ๆ นะคะ รับรองว่าผลตอบแทนที่ได้กลับมาจะคุ้มค่าเกินกว่าที่เธอคิดแน่นอนค่ะ

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที