จะไลฟ์สดดี? เปิดร้านในมาร์เก็ตเพลส หรือสร้างเว็บไซต์เองดีนะ? ไขข้อข้องใจ ช่องทางไหนปั้นแบรนด์ให้ปังได้จริง!

วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่หลายๆ คนน่าจะกำลังคิดหนักอยู่ นั่นก็คือ "จะสร้างแบรนด์บนช่องทางไหนดีนะ?" ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สดขายของ, ไปเปิดร้านบนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสดังๆ หรือจะทุ่มงบจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์สร้างบ้านของตัวเองขึ้นมาเลยดี? เป็นคำถามโลกแตกที่ทำเอาเจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคนกุมขมับเลยใช่ไหมล่ะคะ? วันนี้เราจะมาเจาะลึกแต่ละช่องทางกันแบบละเอียดเลยค่ะ มาดูกันว่าทางไหนจะตอบโจทย์และทำให้แบรนด์ของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืนที่สุด

ไลฟ์สด : สร้างปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ จุดแข็งที่ต้องรู้

ทำไมไลฟ์สดถึงมาแรงแซงโค้ง?

ทุกคนน่าจะเคยเห็นแม่ค้าออนไลน์ไลฟ์สดขายของกันจนชินตาแล้วใช่ไหมคะ? ต้องยอมรับเลยว่า Live สด กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อขายไปอย่างสิ้นเชิง หลายคนเลือกที่จะดูไลฟ์เพื่อซื้อของเพราะมันได้บรรยากาศเหมือนได้เลือกซื้อของจริงๆ ได้พูดคุยโต้ตอบกับแม่ค้า ได้เห็นสินค้าแบบซอกแซก ถามอะไรก็ตอบทันที แถมยังมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ที่มาเฉพาะในไลฟ์อีกด้วย

จุดแข็งของไลฟ์สดคือการสร้าง "ปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์" ค่ะ เราสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรง ตอบคำถามที่สงสัยได้ทันที ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ยิ่งเราสามารถสร้างบุคลิกของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ มีความน่ารัก เป็นกันเอง หรือมีความรู้เฉพาะทาง ลูกค้าก็จะยิ่งผูกพันและกลายเป็นแฟนคลับที่พร้อมจะสนับสนุนแบรนด์ของเราในระยะยาว

ไลฟ์สดยังไงให้ปัง ไม่ใช่แค่ขายของ?

แต่แค่ไลฟ์สดขายของอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอที่จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งนะคะ เพราะถ้าไลฟ์ของเรามีแต่การขาย ลูกค้าก็อาจจะเบื่อได้ง่ายๆ การสร้างแบรนด์ผ่านไลฟ์สดต้องมีอะไรมากกว่านั้นค่ะ ลองคิดดูสิคะว่าเราสามารถใช้ไลฟ์สดทำอะไรได้บ้าง?

• สร้างความรู้และให้ข้อมูล: เช่น ถ้าเราขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็อาจจะไลฟ์สดสอนวิธีการดูแลผิวที่ถูกต้อง หรือให้ความรู้เกี่ยวกับส่วนผสมต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ของเรา การให้ความรู้แบบนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
• เบื้องหลังการทำงาน: พาไปดูขั้นตอนการผลิตสินค้าของเรา หรือเบื้องหลังการทำงานของทีมงาน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและเห็นถึงความใส่ใจที่เรามีต่อสินค้าและบริการ
• พูดคุยตอบคำถามแบบ Exclusive: จัดไลฟ์สดพิเศษเพื่อตอบคำถามที่พบบ่อย หรือให้คำปรึกษาส่วนตัวกับลูกค้าที่สนใจ การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
• สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ: เชิญผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรามาพูดคุย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

สิ่งสำคัญคือการทำให้ไลฟ์สดของเรามีคุณค่ามากกว่าแค่การขายค่ะ การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้อยู่กับเรานานขึ้น และสุดท้ายก็จะนำไปสู่การจดจำแบรนด์ได้ในที่สุด

Marketplace : ตลาดนัดออนไลน์ที่พร้อมเสิร์ฟลูกค้าตรงหน้า

ข้อดีข้อเสียของการฝากชีวิตไว้กับแพลตฟอร์ม

หลายคนเริ่มต้นธุรกิจด้วยการไปเปิดร้านใน Marketplace อย่าง Lazada, Shopee หรือ TikTok Shop เพราะอะไรน่ะเหรอคะ? ก็เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้มีฐานลูกค้ามหาศาลอยู่แล้วไงคะ! ไม่ต้องเสียเวลาทำการตลาดเองมากนัก แค่ลงสินค้าให้ตรงปก เขียนรายละเอียดให้น่าสนใจ และทำโปรโมชั่นดีๆ ลูกค้าก็พร้อมจะเข้ามาหาเราแล้ว

ข้อดีของการใช้ Marketplace คือ:

• เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเร็ว: แพลตฟอร์มมีทราฟฟิกสูง มีคนเข้ามาค้นหาสินค้าอยู่ตลอดเวลา
• ระบบหลังบ้านจัดการง่าย: มีระบบจัดการคำสั่งซื้อ การชำระเงิน และการขนส่งที่ค่อนข้างครบครัน
• ใช้งบเริ่มต้นน้อย: ไม่ต้องเสียเงินสร้างแพลตฟอร์มเอง

แต่ข้อเสียก็มีไม่น้อยเลยค่ะ ลองนึกดูว่าถ้าเราพึ่งพา Marketplace มากเกินไปจะเป็นยังไง?

• การแข่งขันสูง: มีร้านค้ามากมายที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน การจะโดดเด่นออกมานั้นยากมาก
• การสร้างแบรนด์ถูกจำกัด: แพลตฟอร์มมีข้อจำกัดในการตกแต่งร้าน การนำเสนอแบรนด์ทำได้ไม่เต็มที่ ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์เราได้ยาก
• ข้อมูลลูกค้าไม่เป็นของเรา: เราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ทำให้ยากต่อการทำ CRM (Customer Relationship Management) หรือการตลาดแบบเจาะจงในอนาคต
• ขึ้นอยู่กับนโยบายแพลตฟอร์ม: หากแพลตฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือเพิ่มค่าธรรมเนียม เราก็ต้องยอมรับ
• ความเสี่ยงที่จะโดนปิดร้าน: หากทำผิดกฎของแพลตฟอร์ม อาจโดนระงับหรือปิดร้านได้ทันที

Marketplace จึงเหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจ หรือเป็นช่องทางเสริมในการขาย แต่หากหวังจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว การพึ่งพา Marketplace เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดค่ะ

เว็บไซต์ : บ้านของตัวเองที่สร้างแบรนด์ได้ไร้ขีดจำกัด

ทำไมการมีเว็บไซต์ถึงเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้?

มาถึงช่องทางสุดท้ายที่ถือเป็น "บ้านของตัวเอง" อย่าง เว็บไซต์ กันบ้างค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าการสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องยุ่งยาก ใช้เงินเยอะ แถมยังไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าไหม? แต่บอกเลยว่าในระยะยาวแล้ว การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในการสร้างแบรนด์ค่ะ และเราในฐานะบริษัทรับทำเว็บไซต์ก็เห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้มากๆ

ลองคิดดูสิคะว่า ถ้าเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เราจะสามารถ:

• สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ได้ตามใจ: จะออกแบบเว็บไซต์ให้เป็นแบบไหน สีอะไร วางเลย์เอาต์ยังไง ก็ทำได้เต็มที่ ไม่มีข้อจำกัดเหมือนแพลตฟอร์มอื่นๆ ทำให้ลูกค้าสัมผัสถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์เราได้อย่างเต็มที่
• ควบคุมประสบการณ์ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์: ตั้งแต่หน้าแรกที่ลูกค้าเข้ามา การนำเสนอสินค้า การชำระเงิน ไปจนถึงบริการหลังการขาย ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา ทำให้เราสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้
• เข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ทั้งหมด: เว็บไซต์ของเราจะเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครบถ้วน ทำให้เราสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า วางแผนการตลาด และทำ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ: การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและไว้วางใจในการทำธุรกิจกับเรามากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเราได้บริษัทรับทำเว็บไซต์มืออาชีพมาช่วยดูแล
• SEO (Search Engine Optimization): เว็บไซต์ของเราสามารถปรับแต่งให้ติดอันดับการค้นหาบน Google ได้ ทำให้ลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการของเราเจอเราได้ง่ายขึ้น นี่คือการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนดีมากๆ
• ช่องทางการตลาดที่หลากหลาย: เราสามารถเชื่อมโยงเว็บไซต์กับช่องทางการตลาดอื่นๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Social Media, Email Marketing หรือ Google Ads

แน่นอนว่าการสร้างเว็บไซต์อาจจะมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลามากกว่าช่องทางอื่น แต่เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ในระยะยาวแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยดูแล การสร้างเว็บไซต์ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น

การสร้างแบรนด์ไม่ได้มีแค่การขายของ

นอกจากนี้ การมีเว็บไซต์ยังเปิดโอกาสให้เราสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและหลากหลายได้อีกด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่หน้าสินค้าและตะกร้าช้อปปิ้ง แต่เราสามารถมีบล็อกบทความให้ความรู้, แกลเลอรีรูปภาพ, วิดีโอแนะนำสินค้า, หรือแม้กระทั่งฟอรัมสำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ของเรา และทำให้ลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์ของเราซ้ำๆ

ผสมผสานให้ลงตัว เพื่อสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

จากที่คุยกันมาทั้งหมด หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วใช่ไหมคะว่าแต่ละช่องทางมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป แล้วคำถามที่ว่า "ช่องทางไหนสร้างแบรนด์ได้จริง?" คำตอบคือ "ทุกช่องทางสามารถสร้างแบรนด์ได้จริงค่ะ แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธีและเหมาะสมกับเป้าหมายของเรา"

• ไลฟ์สด: เหมาะสำหรับการสร้างปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ สร้างความใกล้ชิดกับลูกค้า และโปรโมทสินค้าแบบเร่งด่วน แต่ต้องมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นประจำ
• Marketplace: เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ หรือใช้เป็นช่องทางเสริมในการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับข้อจำกัดในการสร้างแบรนด์และการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า
• เว็บไซต์: คือหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ในระยะยาว เป็นบ้านของตัวเองที่ควบคุมได้ทุกอย่าง สร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในอนาคต การลงทุนกับบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ "ผสมผสาน" ทุกช่องทางให้ลงตัวค่ะ เราสามารถใช้ไลฟ์สดเพื่อโปรโมทสินค้าและดึงลูกค้าเข้ามายังเว็บไซต์ ใช้ Marketplace เพื่อเพิ่มช่องทางการขายในวงกว้าง และใช้เว็บไซต์เป็นศูนย์กลางในการสร้างแบรนด์ สร้างคอนเทนต์ และเก็บข้อมูลลูกค้า

ไม่ว่าคุณจะเลือกช่องทางไหน ขอให้จำไว้ว่าการสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การสร้างคุณค่า และการทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ค่ะ หวังว่าข้อมูลที่เราคุยกันวันนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณนะคะ! ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม หรือสนใจปรึกษาเรื่องการทำเว็บไซต์ ก็ทักมาคุยกันได้เลยค่ะ