ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

แฮ็กความลับการสร้างรายได้แบบไม่หยุดพัก!: เว็บไซต์ของคุณเป็นแค่หน้าร้าน... หรือพนักงานขาย 24 ชั่วโมง?

https://www.ib.co.th/article/987
แฮ็กความลับการสร้างรายได้แบบไม่หยุดพัก!: เว็บไซต์ของคุณเป็นแค่หน้าร้าน... หรือพนักงานขาย 24 ชั่วโมง?

หลายคนอาจจะมองว่าเว็บไซต์ก็คือหน้าร้านออนไลน์ มีไว้แค่โชว์สินค้า โชว์ข้อมูลเฉยๆ แต่เชื่อไหมคะว่าเว็บไซต์ของเราทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะมาก วันนี้เราจะมาแชร์ว่าทำไมเราถึงควรมองว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่หน้าร้าน แต่คือ พนักงานขาย 24 ชั่วโมง ที่ทำงานให้เราตลอดเวลา

เว็บไซต์คืออะไร? แล้วเว็บไซต์ของคุณเป็นแค่หน้าร้าน หรือเป็นพนักงานขาย 24 ชม.

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางธุรกิจถึงเติบโตเร็วกว่า ทั้งที่สินค้าก็คล้ายๆ กัน? ความลับอาจไม่ได้อยู่ที่สินค้า แต่อยู่ที่ 'ตัวช่วย' ที่ทำงานให้คุณตลอดเวลาโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย!

สวัสดีค่ะทุกคน! มาเจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้เราขอเปิดประเด็นที่คนทำธุรกิจยุคใหม่น่าจะอินกันสุดๆ นั่นก็คือเรื่อง 'เว็บไซต์' ค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว แต่เคยลองมองลึกๆ ลงไปไหมว่า เว็บไซต์ที่เรามีอยู่ตอนนี้มันทำหน้าที่อะไรอยู่กันแน่? มันเป็นแค่หน้าร้านสวยๆ ที่ตั้งอยู่บนโลกออนไลน์ หรือมันกำลังทำงานหนักเป็นพนักงานขายชั้นยอดให้กับเราตลอด 24 ชั่วโมง?

วันนี้เราจะมาคุยกันแบบเปิดใจเลยค่ะ ว่าจากประสบการณ์ของเราในฐานะคนทำธุรกิจและอยู่ในวงการมาพักใหญ่ เว็บไซต์ที่ดีควรจะเป็นมากกว่าแค่ภาพสวยๆ หรือข้อมูลสินค้า แต่ต้องเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและทำงานให้เราได้จริงๆ เรามาลองดูกันดีกว่าค่ะว่า 'หน้าร้าน' กับ 'พนักงานขาย' แตกต่างกันยังไง แล้วเราจะเปลี่ยนเว็บไซต์ของเราจากแค่หน้าร้านธรรมดาให้กลายเป็นพนักงานขายสุดเจ๋งได้ยังไงบ้าง

เมื่อเว็บไซต์เป็นแค่ 'หน้าร้าน'

ลองนึกภาพตามนะคะว่าร้านค้าแบบออฟไลน์ของเราเป็นยังไง? ก็คือมีป้ายชื่อร้านสวยๆ มีตู้โชว์สินค้า มีข้อมูลเบอร์โทรติดต่อ มีที่ตั้งบอกชัดเจนใช่ไหมคะ? เว็บไซต์ที่เป็นแค่หน้าร้านก็เหมือนกันเลยค่ะ มันจะเป็นเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่หลักๆ แค่ 'ให้ข้อมูล' เช่น บอกว่าเราขายอะไร มีสินค้าอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ มีเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลให้ติดต่อ แต่...แล้วยังไงต่อ?

เว็บไซต์แบบนี้เหมือนเราเปิดร้านแต่ไม่มีคนเฝ้า ไม่มีคนคอยตอบคำถามลูกค้า ไม่มีใครคอยเชียร์สินค้า ไม่มีใครคอยปิดการขาย ลูกค้าเข้ามาดูแล้วก็ออกไป ถ้าสนใจจริงๆ ก็อาจจะโทรมาหรือทักมา แต่ถ้าไม่ล่ะ? ก็คือจบไปเลยใช่ไหมคะ โอกาสในการขายก็หายไปทันที

เราไม่ได้บอกว่าการมีเว็บไซต์แบบหน้าร้านไม่ดีนะคะ แต่มันอาจจะยังไม่เพียงพอในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูงขนาดนี้ ยิ่งตอนนี้คู่แข่งก็มีเว็บไซต์และเครื่องมือที่ทันสมัยกว่าเราเยอะแยะไปหมด ถ้าเรายังอยู่กับที่ก็เท่ากับว่าเรากำลังเดินถอยหลังอยู่ค่ะ

 

ปลดล็อกศักยภาพ: ให้เว็บไซต์เป็น 'พนักงานขาย 24 ชั่วโมง'

ทีนี้ลองมาดูเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนพนักงานขายชั้นยอดกันบ้างค่ะ พนักงานขายที่ดีทำอะไรบ้างคะ?

  • ต้อนรับลูกค้า: เมื่อลูกค้าเดินเข้าร้าน พนักงานขายจะกล่าวทักทายและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
  • ให้ข้อมูลเชิงลึก: พนักงานขายจะรู้ทุกซอกทุกมุมของสินค้า สามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ และแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: พนักงานขายที่ดีจะสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  • ปิดการขาย: และที่สำคัญที่สุดคือพนักงานขายสามารถช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในที่สุด

แล้วเว็บไซต์ของเราจะทำหน้าที่เหล่านี้ได้ยังไงบ้าง?

มันคือการที่เรา 'ออกแบบ' และ 'พัฒนา' เว็บไซต์ให้มีฟังก์ชันที่มากกว่าแค่การโชว์ข้อมูลค่ะ ลองมาดูกันว่าเราจะใส่เครื่องมืออะไรลงไปได้บ้าง

  1. ระบบ Chatbot หรือ Live Chat: นี่คือ 'พนักงานต้อนรับ' และ 'พนักงานขาย' ที่ทำงานให้เรา 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ไม่ว่าลูกค้าจะเข้ามาเวลาไหน เช้า สาย บ่าย เย็น หรือแม้แต่ตอนที่เรานอนหลับอยู่ Chatbot ก็สามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้ทันที และถ้าคำถามซับซ้อนขึ้นมาหน่อย ก็สามารถโอนสายให้พนักงานจริงๆ มาคุยต่อได้ในช่วงเวลาทำการ
  2. การใช้ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน: ในทุกๆ หน้าของเว็บไซต์เราควรจะมีปุ่มที่เชิญชวนให้ลูกค้าทำอะไรบางอย่าง เช่น 'สั่งซื้อเลย', 'เพิ่มลงในตะกร้า', 'ขอใบเสนอราคา', หรือ 'ดาวน์โหลด E-book ฟรี' ปุ่มเหล่านี้คือคำพูดเชิญชวนของพนักงานขายที่คอยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
  3. เนื้อหาที่มีคุณค่า (Content Marketing): แทนที่จะแค่บอกว่าเราขายอะไร เราควรสร้างเนื้อหาที่ให้ความรู้และแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ด้วยค่ะ เช่น ถ้าเราขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เราอาจจะเขียนบทความเกี่ยวกับ 'วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวแพ้ง่าย' หรือ 'ขั้นตอนการบำรุงผิวให้ถูกวิธี' เนื้อหาเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ามองว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของเรา
  4. ระบบ E-commerce ที่ใช้งานง่าย: เว็บไซต์ที่ทำให้ลูกค้าซื้อของได้อย่างสะดวกสบายคือพนักงานขายที่เก่งที่สุดค่ะ ตั้งแต่การเลือกสินค้า การเพิ่มลงตะกร้า การกรอกที่อยู่ การชำระเงิน ไปจนถึงการแจ้งสถานะการจัดส่ง ทุกขั้นตอนต้องไหลลื่นและไม่ยุ่งยาก
  5. การรวบรวมข้อมูลลูกค้า (Lead Generation): เว็บไซต์ที่ทำงานเป็นพนักงานขายจะไม่ได้ปล่อยให้ลูกค้าที่เข้ามาดูแล้วจากไปเฉยๆ ค่ะ เราสามารถติดตั้งฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร หรือดาวน์โหลด E-book ฟรีได้ ข้อมูลเหล่านี้คือ 'รายชื่อลูกค้า' ที่เราสามารถนำไปใช้ทำการตลาดต่อได้ในอนาคต

 

สรุปส่งท้าย: สร้างเว็บไซต์ให้เป็นสินทรัพย์ ไม่ใช่แค่รายจ่าย

ถ้าเพื่อนๆ ยังมองว่าการทำเว็บไซต์คือรายจ่ายที่ต้องจ่ายไปทุกๆ ปี เราอยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่นะคะ ให้มองว่าเว็บไซต์คือ 'สินทรัพย์' ที่ทำงานให้เราได้ตลอดเวลา มันคือพนักงานขายที่ไม่เคยลาป่วย ไม่เคยบ่น ไม่เคยพักร้อน และทำงานให้เราได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด

ถ้าวันนี้เว็บไซต์ของเรายังเป็นแค่หน้าร้านธรรมดาๆ ที่ให้ข้อมูล เราอยากชวนให้ลองกลับไปดูว่าเราจะสามารถเพิ่มฟังก์ชันอะไรเข้าไปได้บ้าง เพื่อให้มันทำงานเป็นพนักงานขายให้กับเราได้จริงๆ

การทำเว็บไซต์ให้เป็นพนักงานขายอาจจะต้องลงทุนในตอนแรก ทั้งเรื่องเงินและเวลา แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมาในระยะยาวนั้นคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เพราะมันจะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแรง

แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ วันนี้เว็บไซต์ของคุณเป็นแค่หน้าร้าน หรือเป็นพนักงานขาย 24 ชั่วโมงแล้ว? มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลยนะคะ!

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที