ทำไมต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง? โลกออนไลน์มันน่ากลัวกว่าที่คิด
"คุณคะ! ฉันเพิ่งโดนปิดบัญชีร้านค้าไปเมื่อเช้านี้เอง! อยู่ๆ ก็หายไปเลย งงมาก..." เสียงบ่นจากเพื่อนรักที่ชื่อนุ่นดังขึ้นในสายโทรศัพท์ เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะได้ยินจากบรรดาคนทำธุรกิจออนไลน์ที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือ Marketplace ต่างๆ ในการขายของ
ในฐานะที่เราเองก็เป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนกัน เราเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลยค่ะ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องการขายของไม่ได้ แต่มันคือการสูญเสียทุกอย่างที่สร้างมา ไม่ว่าจะเป็นฐานลูกค้า หรือแม้แต่ความน่าเชื่อถือที่สะสมมานาน
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าการทำธุรกิจออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ กำลังทำให้คุณมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา บทความนี้จะชวนคุณมาทำความรู้จักกับ "บ้านหลังใหม่ในโลกออนไลน์" ที่คุณสามารถสร้างและเป็นเจ้าของได้เอง 100% นั่นก็คือ เว็บไซต์ส่วนตัว ค่ะ
ทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่คุณอาจมองข้าม
เรามาลองมองภาพตามกันง่ายๆ นะคะ สมมติว่าคุณกำลังเช่าร้านขายของอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง คุณต้องทำตามกฎระเบียบของห้างทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเวลาเปิด-ปิดร้าน หรือแม้แต่การตกแต่งร้านค้าก็ต้องได้รับอนุญาตก่อน และถ้าวันหนึ่งเจ้าของห้างตัดสินใจเปลี่ยนนโยบาย คุณก็มีโอกาสที่จะต้องย้ายออกหรือปิดกิจการได้ทั
แพลตฟอร์มออนไลน์ก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ
พวกเขามีนโยบายการใช้งานของตัวเอง และนโยบายเหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อโดยที่คุณไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เช่น การปรับอัลกอริทึม การโดนแบน หรือการปิดบัญชีโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ธุรกิจของคุณก็อาจต้องหยุดชะงักลงทันที
การที่เราต้องฝากอนาคตของธุรกิจไว้กับแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง เท่ากับเรากำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจในยุคนี้

ทำไมเว็บไซต์ถึงเป็น “บ้าน” ที่มั่นคงที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ?
"เรามีเพจแล้ว มีร้านในช้อปปี้แล้วด้วย ทำไมยังต้องทำเว็บไซต์อีก?" นี่เป็นคำถามที่เราได้ยินบ่อยมากเลยค่ะ และเราก็เข้าใจว่าหลายคนอาจจะมองว่าการทำเว็บไซต์เป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา แต่ถ้าเรามองมันในมุมของ การลงทุนระยะยาวเพื่อความมั่นคง แล้ว การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยค่ะ
1. คุณเป็นเจ้าของเอง 100% ไม่มีใครมาปิดธุรกิจของคุณได้
นี่คือข้อดีที่สำคัญที่สุดของการมีเว็บไซต์ค่ะ คุณคือเจ้าของบ้านหลังนี้แต่เพียงผู้เดียว คุณมีสิทธิ์ที่จะตกแต่ง จัดการ หรือทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ตราบเท่าที่คุณยังจ่ายค่าโดเมนและค่าโฮสติ้งอยู่ ไม่มีใครสามารถสั่งให้คุณหยุดขายหรือปิดร้านได้ เว็บไซต์ของคุณจะเปิดทำการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรืออัลกอริทึมยังไง ธุรกิจของคุณก็ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
2. สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ
การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ ลองนึกภาพตามนะคะ ระหว่างร้านค้าในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย กับเว็บไซต์ที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ มีข้อมูลครบถ้วน และมีระบบการจัดการที่ดี อันไหนดูน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้ามากกว่ากันคะ?
นอกจากนี้ การมีเว็บไซต์ยังช่วยให้คุณสามารถสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างอิสระ คุณสามารถใส่ภาพ วิดีโอ หรือบทความที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยสร้างความผูกพันและสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
3. ควบคุมข้อมูลลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์
คุณทราบไหมคะว่าข้อมูลลูกค้าถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของธุรกิจ การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองช่วยให้คุณสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการซื้อขาย พฤติกรรมของลูกค้า หรือข้อมูลติดต่อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมทางการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้อีกด้วย
ในทางกลับกัน หากคุณฝากร้านไว้ในแพลตฟอร์มต่างๆ ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การควบคุมของแพลตฟอร์มนั้นๆ และคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
สร้างเว็บไซต์ง่ายกว่าที่คิด และคุณก็ทำได้!
"โอ๊ยยยย… ทำเว็บไซต์มันต้องเขียนโค้ดไม่ใช่เหรอ? ดูยุ่งยากจังเลย" เราเข้าใจเลยค่ะว่าหลายคนอาจจะมีความคิดแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำเว็บไซต์ในยุคนี้ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์สวยๆ ได้เองโดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ดเลยแม้แต่น้อย
1. ทำความรู้จักกับ CMS (Content Management System)
CMS หรือ ระบบจัดการเนื้อหา คือเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยค่ะ ตัวอย่างของ CMS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ WordPress ค่ะ
WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีแม่แบบ (Template) และปลั๊กอิน (Plugin) ให้เลือกมากมาย คุณสามารถเลือกแม่แบบที่ตรงกับสไตล์ของแบรนด์ แล้วติดตั้งปลั๊กอินที่จำเป็น เช่น ระบบตะกร้าสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ หรือฟอร์มติดต่อสำหรับลูกค้า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เว็บไซต์ที่พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
2. เริ่มต้นง่ายๆ ด้วย 3 ขั้นตอน
การสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดค่ะ แค่ทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆ นี้ คุณก็จะได้เว็บไซต์ของตัวเองแล้ว
- จดทะเบียนชื่อโดเมน (Domain Name): ชื่อโดเมนก็คือชื่อเว็บไซต์ของคุณนั่นแหละค่ะ เช่น yourbrand.com พยายามเลือกชื่อที่จำง่าย สะท้อนตัวตนของแบรนด์ และไม่ซ้ำกับคนอื่นนะคะ
- เลือกพื้นที่เก็บเว็บไซต์ (Web Hosting): โฮสติ้งคือพื้นที่ที่เราใช้เก็บข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ รูปภาพ หรือบทความ ซึ่งมีผู้ให้บริการมากมายให้เลือกสรรตามงบประมาณและความต้องการ
- ติดตั้ง CMS (เช่น WordPress): เมื่อได้ชื่อโดเมนและพื้นที่โฮสติ้งแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการติดตั้ง WordPress ค่ะ ซึ่งผู้ให้บริการโฮสติ้งส่วนใหญ่ก็จะมีระบบติดตั้งแบบอัตโนมัติให้คุณใช้งานได้ง่ายๆ
ถึงเวลาสร้างบ้านของตัวเองบนโลกออนไลน์แล้วหรือยัง?
ในยุคที่การแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การฝากความสำเร็จของธุรกิจไว้กับแพลตฟอร์มของคนอื่นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนอีกต่อไป
การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองอาจต้องใช้เวลาและการลงทุนในตอนแรก แต่เมื่อมองในระยะยาวแล้ว มันคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ เพราะมันคือการสร้าง "สินทรัพย์ดิจิทัล" ที่มั่นคง เป็น "บ้าน" ที่คุณเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริง และเป็น "ศูนย์กลาง" ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะเริ่มทำเว็บไซต์เมื่อไหร่ดี เราอยากบอกว่า "ตอนนี้แหละค่ะคือเวลาที่ดีที่สุด" ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับธุรกิจของคุณก่อนที่จะเริ่มลงมือทำนะคะ