ไอที บีลีฟ ไทยแลนด์ – ผู้พัฒนาเว็บไซต์และระบบ iBZII สำหรับธุรกิจ SME ที่อยากเติบโตออนไลน์แบบมืออาชีพ
แชทผ่านไลน์ 061 994 9464 สมัครงาน

เว็บไซต์ (Website) vs. เว็บแอป (Web App) มันต่างกันยังไง?

เว็บไซต์ (Website) vs. เว็บแอป (Web App) มันต่างกันยังไง?

ลองนึกภาพง่ายๆ แบบนี้ครับ เมื่อคุณเปิดนิตยสาร คุณแค่เปิดดูเนื้อหาในนั้นใช่ไหมครับ? คุณอ่านข่าว ดูรูปภาพสินค้า อ่านบทความต่างๆ เนื้อหามันถูกจัดเรียงมาแล้วและไม่ค่อยเปลี่ยนบ่อยๆ หน้าที่หลักของมันคือ ให้ข้อมูล กับคุณอย่างเดียว

เว็บไซต์ (Website) คือ "นิตยสารออนไลน์"

เมื่อคุณเปิดนิตยสาร คุณแค่เปิดดูเนื้อหาในนั้นใช่ไหมครับ? คุณอ่านข่าว ดูรูปภาพสินค้า อ่านบทความต่างๆ เนื้อหามันถูกจัดเรียงมาแล้วและไม่ค่อยเปลี่ยนบ่อยๆ หน้าที่หลักของมันคือ ให้ข้อมูล กับคุณอย่างเดียว

  • ตัวอย่าง: เว็บไซต์ข่าว เว็บไซต์บริษัทที่บอกว่าบริษัททำอะไรบ้าง หรือบล็อกที่คุณเข้าไปอ่านเรื่องราวต่างๆ

  • เปรียบเทียบง่ายๆ: เหมือนป้ายประกาศ, แผ่นพับ, หรือหนังสือนั่นแหละครับ คุณดูได้อย่างเดียว

ภาพประกอบ: รูปคนกำลังเปิดดูเว็บไซต์ข่าวหรือเว็บไซต์บริษัทบนจอคอมพิวเตอร์ ทำหน้าเหมือนกำลังอ่านหนังสือ

เว็บแอปพลิเคชัน (Web App) คือ "โปรแกรมใช้งานออนไลน์"

อันนี้ต่างกันเลยครับ! มันไม่ใช่แค่ให้คุณอ่าน แต่มันคือ "เครื่องมือ" ที่คุณสามารถ โต้ตอบ กับมันได้ สั่งให้มันทำอะไรบางอย่างได้ และมันจะตอบสนองกลับมา

  • ตัวอย่าง:

    • แอปธนาคารออนไลน์: คุณไม่ได้แค่ดูยอดเงินเฉยๆ แต่คุณสามารถกดโอนเงิน กดจ่ายบิลได้

    • Shopee/Lazada: คุณไม่ได้แค่ดูสินค้า แต่คุณกดเลือกสินค้าใส่ตะกร้า กดสั่งซื้อ และจ่ายเงินได้

    • Facebook/Line: คุณไม่ได้แค่ดูโพสต์เฉยๆ แต่คุณโพสต์รูป กดไลค์ คอมเมนต์ หรือคุยกับเพื่อนได้

  • เปรียบเทียบง่ายๆ: เหมือนสมุดบัญชีธนาคาร, ตะกร้าสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต, หรือสมุดโทรศัพท์ของคุณ ที่ใช้งานและเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้

ภาพประกอบ: รูปคนกำลังใช้มือถือทำธุรกรรมในแอปธนาคาร หรือกำลังเลือกสินค้าในแอปช้อปปิ้งออนไลน์

เว็บแอปพลิเคชัน (Web App) คือ "โปรแกรมใช้งานออนไลน์"

อันนี้ต่างกันเลยครับ! มันไม่ใช่แค่ให้คุณอ่าน แต่มันคือ "เครื่องมือ" ที่คุณสามารถ โต้ตอบ กับมันได้ สั่งให้มันทำอะไรบางอย่างได้ และมันจะตอบสนองกลับมา

 ตัวอย่าง:

    • แอปธนาคารออนไลน์: คุณไม่ได้แค่ดูยอดเงินเฉยๆ แต่คุณสามารถกดโอนเงิน กดจ่ายบิลได้

    • Shopee/Lazada: คุณไม่ได้แค่ดูสินค้า แต่คุณกดเลือกสินค้าใส่ตะกร้า กดสั่งซื้อ และจ่ายเงินได้

    • Facebook/Line: คุณไม่ได้แค่ดูโพสต์เฉยๆ แต่คุณโพสต์รูป กดไลค์ คอมเมนต์ หรือคุยกับเพื่อนได้

  • เปรียบเทียบง่ายๆ: เหมือนสมุดบัญชีธนาคาร, ตะกร้าสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต, หรือสมุดโทรศัพท์ของคุณ ที่ใช้งานและเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้

 

ระบบซับซ้อนทำงานยังไง? (เบื้องหลังของเว็บแอป)

ทีนี้มาดูกันว่าเว็บแอปที่ซับซ้อนอย่างแอปเรียกรถออนไลน์มันทำงานยังไง เบื้องหลังมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เห็นบนจอเลยครับ
ลองนึกภาพว่าเป็น "การสั่งพิซซ่าออนไลน์" ครับ

 

  1. คุณคือ "ลูกค้า" (Client): คุณเปิดแอปบนมือถือและกดสั่งพิซซ่า

  2. คำสั่งถูกส่งไปที่ "ร้านอาหาร" (Server): คำสั่งของคุณ (อยากได้พิซซ่าหน้าอะไร, ที่อยู่ส่งที่ไหน) ถูกส่งไปที่ "ครัวกลาง" ของร้านพิซซ่า

  3. ร้านอาหารประมวลผล (Processing):

    • คนในครัวเช็กว่ามีวัตถุดิบไหม (เช็กจาก คลังวัตถุดิบ = Database ที่เก็บข้อมูลทุกอย่าง)

    • เช็กว่ามีพนักงานส่งอาหารว่างอยู่ไหม

    • คำนวณราคาและเวลาที่จะไปถึง

  4. ร้านอาหารตอบกลับ (Response): ครัวกลางส่งข้อมูลกลับมาบอกคุณว่า "รับออเดอร์แล้วนะ! กำลังทำอยู่" พร้อมบอกราคาและคนที่จะมาส่ง

  5. คุณเห็นผลลัพธ์ (Output): บนหน้าจอคุณจะเห็นว่าสถานะเปลี่ยนเป็น "กำลังทำอาหาร" และอาจจะมีรูปพนักงานส่งอาหารขึ้นมา

   

 

สรุปง่ายๆ:
  •  ส่วนหน้าบ้าน (Frontend): คือ "จอโทรศัพท์" ที่คุณเห็นและแตะ มันคือส่วนที่ทำให้คุณสั่งพิซซ่าได้
  • ส่วนหลังบ้าน (Backend): คือ "ห้องครัว" ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง จัดการทุกอย่าง

  • ฐานข้อมูล (Database): คือ "คลังวัตถุดิบ" ที่เก็บข้อมูลทุกอย่างไว้

ห็นไหมครับว่าเว็บแอปไม่ได้มีแค่หน้าจอให้ดู แต่มี "สมอง" ที่คอยคิดและประมวลผลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณทำอะไรต่างๆ ได้ตามต้องการ

พอจะเข้าใจภาพรวมมากขึ้นไหมครับ?

 

BLOG UPDATE
เทคนิคสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมากกว่าความสวยงาม

เราเชื่อว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ความสวย แต่ต้องช่วยสื่อสารแบรนด์ และขับเคลื่อนธุรกิจ
บทความในที่นี่รวมแนวคิด UX/UI เทคนิค SEO วิธีเลือก CMS และกลยุทธ์ดูแลเว็บไซต์แบบมืออาชีพ ทั้งเจ้าของเว็บและนักออกแบบจะได้แนวคิดไปต่อยอดได้ทันที